• หน้าหลัก
  • บทความพิเศษ
  • สถานที่ในญี่ปุ่นที่อยากไปที่สุด : 5 อันดับการเดินทางเยียวยาจิตใจไปยังยามากาตะซาโอจูเฮียว, โอคามะรวบรวมวิวสวยและอาหารการกินมาแนะนำ

สถานที่ในญี่ปุ่นที่อยากไปที่สุด : 5 อันดับการเดินทางเยียวยาจิตใจไปยังยามากาตะซาโอจูเฮียว, โอคามะรวบรวมวิวสวยและอาหารการกินมาแนะนำ


นอกจากไต้หวันแล้ว ประเทศที่ฉันชอบที่สุดคือญี่ปุ่นค่ะ ญี่ปุ่นเปรียบเหมือนบ้านเกิดหลังที่สอง สถานที่ที่โปรดปรานและอยากไปที่สุดคือภูมิภาคโทโฮคุ โดยเฉพาะจังหวัดยามากาตะ ฉันรวบรวมความกล้าเดินทางไปซาโอจูเฮียวที่ยามากาตะคนเดียวในฤดูหนาวปีหนึ่ง ฉันได้เห็นทิวทัศน์ซาโอจูเฮียวของยามากาตะที่เขย่าหัวใจตามที่หวังไว้ งดงามจนแทบไม่อยากเชื่อเลยล่ะค่ะ

มันช่างเหมือนกับหยดน้ำตาที่หลงเหลืออยู่ในภูเขาไฟ ราวกับทะเลสาบปล่องภูเขาไฟสีคราม “ซาโอโอคามะ” คือชิ้นส่วนสุดท้ายของสายรุ้งที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ การเดินทางเล็กๆ เยียวยาใจครั้งนี้ผนวกกับบ่อน้ำพุร้อนและอาหารการกิน ทำให้ฉันประทับใจถึงขีดสุดเลยค่ะ ฉันชอบยามากาตะจริงๆ!

สถานที่ในญี่ปุ่นที่อยากไปที่สุด : 5 อันดับการเดินทางเยียวยาจิตใจไปยังยามากาตะซาโอจูเฮียว, โอคามะ

“อยากไปส่วนไหนของญี่ปุ่น”

โทโฮคุ ใช่แล้ว ภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น! ต่อให้ถูกถามกี่ครั้ง ฉันคงตอบเช่นนี้อย่างไม่ลังเลแน่นอน

เมื่อกลับไปภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่นทีไร ที่นั่นจะมอบความทรงจำซึ่งไม่มีอะไรแทนที่ได้สำหรับฉันให้เสมอ

โดยเฉพาะเวลาที่ได้อยู่ที่ยามากาตะนั้นมอบความหมายยิ่งใหญ่กับฉันจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูด และการเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิต



ทดลองมีประสบการณ์เล่นสกีบนหญ้า

องุ่นมัสแคทเลิศรส, ลาฟรองซ์กลิ่นหอมหวนที่ราคาถูกจนอยากซื้อเหมาหมด

เนื้อวัวยามากาตะกับเนื้อวัวโยเนซาวะย่างสุดอร่อย, เหล้าญี่ปุ่นรสเลิศที่ทำให้คนไม่ดื่มเหล้าอย่างฉันยังชื่นชม

สถานที่ลับแลไร้ผู้คน ต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองในศาลเจ้าคุมาโนะกับวัดคาคุฟุซังจินโซ มีแต่ทิวทัศน์สวยงามทั้งนั้น

หัวใจกลับไปเป็นเด็ก โกยหิมะปั้นเป็นลูกบอลหิมะแล้วปาใส่หลังคนอื่น

งานเทศกาลญี่ปุ่นที่ไปเยือนครั้งแรก คือเทศกาลวาราจิของเมืองทาคาฮาตะที่จัดกลางหิมะ





เมื่อได้ยินรายการวิทยุรายการหนึ่งแนะนำการท่องเที่ยวยามากาตะ ฉันก็นึกถึงยามากาตะในฤดูหนาว การเดินทางเที่ยวในอนาคตหลังจากนี้ฉันอยากไปโทโฮคุ และอยากไปยามากาตะอีกครั้ง อย่างช้าๆ ไม่รีบร้อน จากนั้นซื้อรองเท้าบู๊ท ติดแผ่นกันลื่นที่พื้นรองเท้า แล้วไปซาโอจูเฮียวอีก ฉันอยากจ้องมองทิวทัศน์หิมะที่อากาศแจ่มใสจากสถานที่ไกลๆ สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่านี้



#สิ่งสำคัญคือความกล้าที่จะก้าวออกไป


การที่ฉันโชคดีได้เจอท้องฟ้าแจ่มใสภายใต้อุณหภูมิ -14 องศาเซลเซียสอย่างนี้ คิดว่าชาติก่อนฉันคงทำกรรมดีไว้พอควรเลยล่ะค่ะ
 ฉันชมวิวหิมะตกที่บ่อน้ำพุร้อนกินซังและดูจูเฮียวบนภูเขาสูง 1661 เมตรจากระดับน้ำทะเลในซาโอเพียงลำพัง หากทุกคนได้มีโอกาสไปยามากาตะอีกล่ะก็ ห้ามพลาดทริปใจกล้าทำฝัน “ไปดูยามากาตะจูเฮียว” ให้เป็นจริงนะคะ! (สำหรับคนขี้หนาว ขอแนะนำให้ไปตอนฤดูใบไม้ร่วงแล้วชมใบไม้แดงเอาค่ะ) ทิวทัศน์งาม ของหวาน และบ่อน้ำพุร้อนของยามากาตะจะทำให้กระเพาะกับจิตใจ และประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณพึงพอใจแน่นอน

ยามากาตะซาโอจูเฮียว สถานที่สูง 1661 เมตรจากระดับน้ำทะเลที่ปีศาจน้ำแข็งอาศัยอยู่

หยดน้ำที่หยดจากป่าต้นสนได้สัมผัสกับลมฤดูหนาวและแข็งตัวเป็นน้ำค้างแข็ง จากนั้นจึงค่อยๆ กลายเป็นดงจูเฮียวสีขาวตระการตา ช่วงเวลาตั้งแต่เดือน ธ.ค. ถึง ก.พ. คือฤดูกาลเติบโตของ “ปีศาจน้ำแข็ง” แห่งยามากาตะซาโอค่ะ โดยเฉพาะเดือน ก.พ. คือช่วงเวลาที่ทัศนียภาพยิ่งใหญ่ที่สุด



เรื่องที่อยากทำความเข้าใจไว้ก่อนไล่ตามความฝัน จะเดินทางไปยังซาโอจูเฮียวอย่างไร?


ฉันพูดภาษาญี่ปุ่นได้แค่ประโยคทักทายพื้นฐานกับ “ขอถ่ายรูปได้ไหมคะ” กับสั่งอาหารในร้านอาหารเท่านั้น ฉะนั้นเลยหาข้อมูลล่วงหน้าไว้แล้ว

ก่อนอื่นฉันพักค้างคืนแถวหน้าสถานียามากาตะและเช็คพยากรณ์อากาศออนไลน์ ที่จริงลังเลอยู่ค่ะว่าจะปีนเขาดีหรือเปล่า เพราะอุณหภูมิ -10 กว่าๆ เป็นสิ่งที่จินตนาการได้ยากทีเดียวสำหรับคนไต้หวันที่ใช้ชีวิตอยู่ในอากาศแบบฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อนตลอดทั้งปี
 แต่อุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้ว ฉันไม่อยากล้มเลิกทั้งแบบนี้ ฉันซื้ออาหารที่ร้านสะดวกซื้อ เอาใส่กระเป๋า แล้วสวมใส่เสื้อผ้า เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ   จากนั้นซื้อตั๋วรถบัสกับรถกระเช้าไปยามากาตะซาโอจูเฮียวที่สถานี แล้วออกเดินทางคนเดียว (จำได้ว่าออกเดินทางประมาณ 7.40 น.)


ลงรถที่ท่ารถบัสซาโอ→เดินต่อประมาณ 10 นาทีถึง “สถานีซาโอซังโรคุ” (โดยสารรถกระเช้าซาโอ)→ถึงสถานีจูเฮียวโคเก็น→หลังจากลงแล้ว ปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยสารรถกระเช้าอีกขบวนไปจนถึง “สถานีจิโซซังโจ”
 ตาโตตลอดการเดินทางเลยค่ะ ฉันมองดูทัศนียภาพเขย่าใจผ่านทางหน้าต่างรถกระเช้า

แม้แต่ตอนนี้ ฉันยังคงจดจำสัมผัสของหิมะสีขาวที่เคยย่ำบนยอดเขายามากาตะซาโอกับทิวทัศน์ที่หิมะละเอียดนุ่มปลิวว่อนกลางสายลมเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2018 ได้ดี อุณหภูมิ -14 องศาเซลเซียสในตอนนั้นหนาวมาก แต่ในใจของฉันกลับเร่าร้อนและการเดินทางในฝันก็จบสมบูรณ์ในที่สุด


แม้แต่ตอนที่มองทิวทัศน์สวยงามอลังการ จิตใจของฉันก็ยังสงบดีไม่ตื่นเต้น ฉันไม่เคยตัดสินใจเรื่องใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย ต้นปี 2018 ในที่สุดฉันก็หลุดพ้นจากความลังเลยาวนานซะที โล่งใจจริงๆ ค่ะ

ฉันอยากแบ่งปันความกล้านี้ให้กับคุณบ้าง การไปดูจูเฮียวที่ซาโอ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยยากเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเดินทางไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนก็ตาม สิ่งที่ยากคือกระบวนการจนกว่าจะตัดสินใจเดินทางนี่ล่ะค่ะ

ซาโอโอคามะ หยดน้ำตาที่ตกร่วงสู่ภูเขาไฟ ชิ้นส่วนสุดท้ายของสายรุ้งที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

สายสัมพันธ์ของฉันกับยามากาตะเริ่มต้นเมื่อเดือน ก.ย. 2017  หลังจากนั้นฉันไปยามากาตะอีกในเดือน พ.ย. , เดือน ม.ค. กับ ต.ค. 2018 และเดือน มี.ค. กับ ก.ย. กับ ต.ค. 2019  รวมทั้งหมด 7 ครั้งในเวลา 2 ปี ยามากาตะคือสถานที่ที่ทำให้ฉันหลงใหล

ตอนไปยามากาตะรอบที่ 4 ฉันไปบ่อน้ำพุร้อนกิงซังกับซาโอจูเฮียว สองแห่งนี้คือสถานที่ที่ฉันอยากไปเที่ยวมากที่สุดในยามากาตะ ซึ่งก็ทำความฝันเป็นจริงจนได้ในที่สุด

ฉันเห็นรูปถ่ายรูปหนึ่งจาก SNS คอมมูนิตี้ท่องเที่ยวญี่ปุ่น รูปถ่ายนั้นคือซาโอโอคามะค่ะ


ซาโอโอคามะตั้งอยู่ภายในกลุ่มภูเขาไฟ ปรากฏในฉากเปิด MV เพลง “Can Que De Cai Hong Imperfect Rainbow” ด้วยล่ะค่ะ แอ่งยุบปากปล่องภูเขาไฟก่อตัวเมื่อ 30,000 ปีก่อน จน ค.ศ. 1182 ปรากฏปล่องภูเขาไฟ และผ่านมาหลังจากนั้นหลายร้อยปีก็มีน้ำขัง และกลายเป็น “ซาโอโอคามะ” อย่างในปัจจุบัน


สถานที่แห่งนี้ปรากฏในฉากเปิด MV เพลง “Can Que De Cai Hong Imperfect Rainbow”ซึ่งเป็น 1 ในผลงานเพลงของ “Cheer Chen” นักร้องไต้หวันชื่อดัง 




การเดินทางสู่ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟสีคราม ซาโอโอคามะ



การเดินทางชมทัศนียภาพงดงามของยามากาตะในครั้งนี้ไม่ได้มีฉันเพียงลำพัง เป็นครั้งแรกที่ฉันออกเดินทางจากรถบัสรับส่งของสถานีคามิโนะยามะออนเซ็นไปชมเวทมนตร์อายุกว่าร้อยปีถึงซาโอโอคามะกับเพื่อนที่เป็นคนยามากาตะ

การเที่ยวในญี่ปุ่นง่ายดายและสะดวกมาก จุดชมทิวทัศน์สวยแทบทุกแห่งมีการเดินทางเข้าถึงที่สะดวก สามารถเดินทางจากสถานี JR คามิโนะยามะออนเซ็นไปซาโอโอคามะได้โดยรถบัสรับส่งฟรี หรือนั่งรถบัสความเร็วสูงเสียค่าใช้จ่ายจากสถานียามากาตะ

การทำให้ลิสต์สถานที่อยากไปเที่ยวครบสมบูรณ์กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที



พวกเราโชคดีที่ได้มาเยือนสถานที่นี้ตอนปลายเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นจังหวะก่อนซาโอโอคามะจะหยุดให้บริการพอดี เราขึ้นลิฟท์แบบนั่งคนเดียวไปจนถึงยอดเขา เนื่องจากเป็นภูเขาไฟจึงมีก้อนกรวดมากมายระหว่างทาง เมื่อเดินไปสักครู่หนึ่งจะเจอทิวทัศน์ที่ผู้คนใฝ่ฝันแผ่กว้างอยู่ตรงหน้า เราได้เห็นซาโอโอคามะแบบเต็มๆ ตั้งแต่ไปเยือนครั้งแรกเพราะเทพเจ้าแห่งภูเขาประทานอากาศดีมาให้ค่ะ พวกเรายืนนิ่งอยู่บนที่สูงและจ้องมองอัญมณีเวทมนตร์ที่อยู่บนภูเขาลึก จารึกทิวทัศน์สวยงามตรงหน้าไว้ในใจอย่างเงียบๆ


ฉันไปเยือนซาโอโอคามะอีกครั้งในเดือน ต.ค. 1 ปีหลังจากนั้น ฉันสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติกับอากาศ และความเปลี่ยนแปลงของภูเขา

พอสวมเสื้อโค้ทบางๆ แล้วลงจากรถ ก็เริ่มมองเห็นทิวทัศน์ที่ดูราวกับกลุ่มภูเขากำลังลอยอยู่เหนือโอคามะ

ซาโอโอคามะจางหายไปกับหมอกในเวลาชั่วครู่แค่ 2 วินาทีเท่านั้น ฤดูกาลเปลี่ยนจากฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูหนาว อุณหภูมิลดเหลือ -2 องศาเซลเซียส พวกเรารู้สึกหนาวจึงรีบกลับเข้าไปในรถ พวกเราใส่ชุดสำหรับฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นแม้กลับเข้าไปในรถแล้วก็ยังไม่หายหนาวตัวสั่น เมื่อหันหลังไปมองก่อนกลับ ฉันรู้สึกว่าซาโอโอคามะที่หายวับไปนั้นช่างลี้ลับยิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ

มุ่งสู่ภายในของโมริโนะโอโตะ โรงแรมที่ป่าไม้ทั้งป่ากลายเป็นโรงแรมบ่อน้ำพุร้อนยามากาตะ

หลังการเดินทางไปซาโอโอคามะจบลง ฉันเลือกเรียวคัง (โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น) บ่อน้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมของยามากาตะ ทำให้การเดินทางครั้งนี้สุดวิเศษมากยิ่งขึ้น เรียวคังบ่อน้ำพุร้อน “โมริโนะโอโตะ” (โอยาโดะ โมริโนะโอโตะ) อยู่ห่างจากป้ายจอดรถบัสรับส่งของซาโอโอคามะไม่มากนัก เป็นเรียวคังบ่อน้ำพุร้อนที่ผสมผสานความงดงามของยามากาตะเข้ากับองค์ประกอบของป่าค่ะ จนตอนนี้ก็ฉันยังโหยหาความยอดเยี่ยมนั้นอยู่

ที่นี่จัดหาบริการกับสภาพแวดล้อมยอดเยี่ยมที่สุดให้แก่ลูกค้า มีห้องพักแค่ 14 ห้อง โมริโนะโอโตะ เรียวคังอันเงียบสงบนี้ เพียงอยู่ที่นั่น ก็จะทำให้ผ่อนคลายเองตามธรรมชาติได้



บ่อน้ำพุร้อนคามิโนะยามะ โมริโนะโอโตะ

ลิงค์HPFacebookInstagramGoogle Maps

ที่อยู่Sorida-848 Kawasaki, Kaminoyama, Yamagata / เบอร์โทรศัพท์จองห้อง023-609-0810 (เวลารับโทรศัพท์ : 9.00-21.00 น.

เช็คอิน : 15.00 น. เช็คเอาท์ : 10.00 น.

เด็กอายุต่ำกว่าชั้นประถมศึกษาไม่สามารถใช้บริการได้ สามารถใช้บัตรเครดิตได้




คุณสามารถปลดปล่อยตัวเองจากความเหนื่อยล้าได้ที่บ่อน้ำพุร้อนในตอนกลางคืน จะนอนให้เต็มอิ่มจนหนำใจบนเตียงนุ่มสบายภายในห้อง หรือเดินอาบแสงในล็อบบี้ที่ตกแต่งเป็นธีมการเปลี่ยนแปลงสี่ฤดูก็ได้

ฉันนั่งเหม่อเยียวยาความเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่โมริโนะโอโตะ เป็นการให้รางวัลตัวเองและฟื้นพลังไปในตัวค่ะ



อุตส่าห์มาแล้วทั้งที ควรจองที่พักแบบหนึ่งคืนพร้อมอาหารสองมื้อเป็นอย่างยิ่ง อาหารเย็นกับอาหารเช้าของโมริโนะโอโตะจัดมาเป็นอาหารเลิศรสที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นชั้นเลิศกับผักตามฤดูกาล

ข้าวอบเกาลัดทำให้รู้สึกว่าฤดูใบไม้ร่วงมาถึงแล้ว สีเหลืองแวววาวเงางามน่ารัก ข้าวเมล็ดนิ่มเคี้ยวเด้ง ต่างช่วยเสริมรสชาติกันและกันกับเนื้อวัวยามากาตะฉ่ำน้ำสุดอร่อย อาหารอร่อยหมดทุกอย่าง ของหวานพลิกแพลงสร้างสรรค์ สมกับเป็นยามากาตะที่มีบ่อน้ำพุร้อนสุดวิเศษอยู่ทุกเมืองจริงๆ ค่ะ

อาหารยามากาตะ อาหารยามากาตะที่ชาวยามากาตะแนะนำ

เวลาวางแผนเดินทาง ฉันชอบวางแผนเป็นเที่ยวดูธรรมชาติสลับกับอาหารการกินค่ะ   เมื่อได้เพลิดเพลินกับอาหารที่ผู้คนประทับใจหลังจากชมทิวทัศน์แล้ว การเดินทางจะเติมเต็มแล้วจิตใจของเราเองก็อิ่มเอมไปพร้อมกันด้วย

ยามากาตะพุดดิ้ง : พุดดิ้งขึ้นชื่อของยามากาตะหมดอายุแค่เพียงใน 10 นาทีเท่านั้น มีมากกว่า 6 ชนิด

การเดินทางไปยามากาตะครั้งที่ 6 มีเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งช่วยนำทางให้ค่ะ หลังจากนอนที่เรียวคังบ่อน้ำพุร้อนของโมริโนะโอโตะจนเต็มอิ่มแล้ว เธอเสนอความคิดว่า "ไปกินพุดดิ้งที่คนพูดถึงเยอะที่สุดในยามากาตะช่วงนี้กันเถอะ คนนิยมมากเลยนะ" สมกับเป็นสาววัยรุ่นที่คอยติดตามข่าวสารล่าสุดบนอินสตาแกรม อาหารที่เธอแนะนำมาไม่ใช่อาหารท้องถิ่นเจ้าประจำ แต่เป็นยามากาตะพุดดิ้งที่มีคุณสมบัติพิเศษค่ะ


เหตุผลที่ตั้งชื่อว่ายามากาตะพุดดิ้งนั้น เพราะพุดดิ้งนี้ใช้วัตถุดิบหลากหลายจากยามากาตะ

ยามากาตะโชคดีเรื่องเงื่อนไขด้านภูมิอากาศ ไม่ว่าจะผลไม้ เนื้อสัตว์ นม สุรา ไข่ ข้าวจึงล้วนแต่อร่อยทั้งสิ้น มีเหตุผลเยอะแยะมากมายเกินไปที่จะอธิบายว่าทำไมฉันถึงรักยามากาตะเสียเหลือเกิน

เมืองยามาโนเบะในยามากาตะโชคดีด้านภูเขา น้ำ และอากาศ ที่นี่เป็นแหล่งผลิตนมวัวรสชาติอร่อย ยามากาตะพุดดิ้งใช้ “นมวัวยามาเบะ” เข้มข้น, “ไข่ดอกคำฝอย” (ดอกคำฝอยถูกใช้เป็นอาหารเลี้ยงไก่) นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบกับผลไม้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล นำเสนอรสชาติใหม่ๆ อยู่เสมอ

รสที่ฉันชอบที่สุดคือ พุดดิ้งไข่เข้มข้น (รสจืด) ซึ่งสามารถลิ้มรสชาติของนมกับไข่ได้มากที่สุด อยากให้ทุกคนลองทานพุดดิ้งไข่บ่อน้ำพุร้อนสุดพิเศษที่นุ่มฟูกว่าปกติ, พุดดิ้งองุ่น, พุดดิ้งองุ่นมัสแคท, พุดดิ้งไวน์ผู้ใหญ่, พุดดิ้งลาฟรองซ์, พุดดิ้งเชอร์รี่ด้วยเหมือนกัน จากที่เช็คเว็บไซต์เมื่อเร็วๆ นี้เหมือนจะมีพุดดิ้งคาราเมลแอปเปิ้ลเพิ่มมาค่ะ


ลาฟรองซ์, องุ่นมัสแคท, ไวน์ต่างเป็นสินค้าขึ้นชื่อของยามากาตะ!



ยามากาตะพุดดิ้งมีแบบที่เป็นพุดดิ้งสดจำนวนจำกัดหมดอายุแค่ภายใน 10 นาทีด้วยค่ะ (ที่มาของชื่อมาจากการที่แนะนำให้ทานให้หมดภายใน 10 นาทีหลังเสิร์ฟ) เนื่องจากจำกัดจำนวน ทุกคนจึงไปรอทานกันก่อนร้านเปิด

โปะหน้าพุดดิ้งเนื้อเนียนด้วยไข่ไก่สดสีเหลืองทองกับซอสคาราเมล แต่ไม่มีรสชาติผิดแปลก กลับนุ่มลิ้นอร่อยด้วยซ้ำ เป็นอาหารหายากที่จัดให้ทานได้เพราะใช้ไข่สดใหม่เลยนะคะนี่!

ที่จริงแล้วยามากาตะพุดดิ้งเป็นแบรนด์ใหม่ที่สร้างโดย “โรงแรมญี่ปุ่น โคโย” เรียวคังเก่าแก่ยอดนิยมประจำบ่อน้ำพุร้อนคามิโนะยามะ (ก่อตั้ง ค.ศ. 1951) “โอยาโดะ โมริโนะโอโตะ” ก็เป็นผลงานของกลุ่มกิจการนี้ค่ะ แต่ละที่ต่างส่งมอบความสวยงามของยามากาตะถึงผู้คนให้มากยิ่งขึ้นด้วยมุมมองกับสไตล์ที่แตกต่างกัน



ยามากาตะพุดดิ้งยามากาตะพุดดิ้ง

ลิงค์HP,  InstagramGoogle Maps

ที่อยู่ : 4-33 Hayama, Kaminoyama, Yamagata / โทรศัพท์ : 023-665-1955

เวลาเปิดทำการ  : 9.00-17.30 น.ออเดอร์สุดท้ายของคาเฟ่ 17.00 น.หยุดทุกวันอังคาร

การเดินทางไป  :นั่งรถบัสจากสถานีคามิโนะยามะออนเซ็น สายยามากาตะชินคันเซ็น, สถานีคามิโนะยามะออนเซ็น สายโออุเส้นหลักไปประมาณ 3-4 นาที เมื่อลงจากรถแล้วเดินต่อประมาณ 8 นาที หรือนั่งแท็กซี่ใช้เวลา 8-10 นาที

อุมายาโด -umayado : คาเฟ่บ้านชาวบ้านโบราณที่มีประวัติศาสตร์มากกว่า 100 ปี, อาหารชุดที่เยียวยาจิตใจ

บ่อน้ำพุร้อนคามิโนะยามะเป็นสถานที่วิเศษจริงๆ ค่ะ เดินทางไปซาโอโอคามะได้สะดวก บริเวณใกล้เคียงมีปราสาทคามิโนะยามะกับเมืองรอบปราสาท คุณสามารถเดินเล่นในคฤหาสน์นักรบของปราสาทโบราณ และดูตึกรามบ้านช่องของญี่ปุ่นยุคอดีตได้


บริเวณรอบๆ ปราสาทคามิโนะยามะอบอวลด้วยบรรยากาศของเมืองรอบปราสาทที่น่ารักสงบสุข โดยเฉพาะที่นี่มีคาเฟ่กับร้านอาหารที่ดัดแปลงมาจากบ้านชาวบ้านโบราณมากมายค่ะ ตอนมาเที่ยวครั้งแรกไม่ค่อยมีเวลามากนักเพราะมาพำนักระยะสั้น ฉันพกความเจ็บใจเอาไว้จนในที่สุดก็ได้เต็มอิ่มกับอาหารของที่นี่ตอนมาเที่ยวปราสาทคามิโนะยามะรอบที่ 2

บ้านชาวบ้านโบราณหลังเล็กสีเหลืองเล็กน้อย คือคาเฟ่อุมายาโด -umayado ค่ะ ตัวอาคารดัดแปลงมาจากบ้านชาวบ้านโบราณที่สร้างเมื่อ 90 ปีก่อน และสร้างหันหน้าเข้าหา “คฤหาสน์นักรบ” ที่ซามูไรเคยอาศัยอยู่ หน้าร้านมีสวนน่ารักๆ ด้วย



ฉันตกใจที่อุมายาโด -umayado มีคนเกือบเต็มร้านในช่วงมื้อเที่ยงทั้งที่เป็นตอนกลางวันของวันธรรมดาแท้ๆ อาหารที่จัดจำหน่ายทุกอาทิตย์เป็นอาหารชุดอ่อนโยนพิถีพิถัน ซึ่งนอกจากจะใช้วัตถุดิบของยามากาตะกับองค์ประกอบตามฤดูกาลแล้วยังนำแนวคิดด้านสุขภาพ แนวคิดด้านธรรมชาติมาใช้ด้วย

ดอกเบญจมาศที่บานในฤดูใบไม้ร่วงถูกนำมาจัดวางบนโต๊ะเป็นของดอง เมนูในวันนั้นมีข้าวกล้องคลุกงากับเกลือ ผักดองสไตล์เกียวโต ซอสวอลนัท หัวหอมกับผักชีลาว ผักรสอร่อยที่ทางร้านปลูกเอง โครเกต์ทำจากมันฝรั่งบดผสมถั่วแระนิ่ม ส่วนของหวานเป็นสาลี่ผลิตในยามากาตะ

ชายหนุ่มที่มาด้วยกันให้คะแนนไว้สูงทีเดียว แต่ดูเหมือนปริมาณจะไม่เพียงพอสำหรับผู้ชายเท่าไหร่


อุมายาโด -umayado  คาเฟ่และร้านอาหารที่บ่อน้ำพุร้อนคามิโนะยามะ ยามากาตะ

ลิงค์HPmenu, Facebook, InstagramGoogle Maps

ที่อยู่ : 1-6-10 Tsuruhagicho, Kaminoyama, Yamagata / เบอร์โทรศัพท์023-609-9206

เวลาเปิดทำการ : 11.00-17.00 น., ทุกวันจันทร์, อังคาร (อาจหยุดไม่เป็นเวลาขึ้นกับสถานการณ์อื่นๆ) / การเดินทางไปเดินจากสถานี JR คามิโนะยามะออนเซ็นไปประมาณ 13 นาที




เมื่อไล่ย้อนดูความทรงจำในยามากาตะเหล่านี้ หัวใจของฉันก็เต็มเปี่ยมด้วยความประทับใจอบอุ่น

ฉันสะสมรวบรวม ไปเที่ยวทั้งฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว ทั้งต้นไม้เขียวชอุ่มช่วงต้นฤดูร้อน แปะก๊วยสีเหลืองทอง ใบไม้แดง และหิมะขาวสวยงามที่ทำเอาหายใจไม่ออกในฤดูหนาว

ฤดูใบไม้ผลิฉันมีแพลนจะไปดูซากุระที่ยามากาตะกับโทโฮคุ แต่ไปไม่ได้ทั้งปี 2019 และ 2020

ทิวทัศน์ที่อยากไปอีกครั้งห่างไกลออกไปทุกทีจนเอื้อมไม่ถึง

สุดท้ายแล้วถ้าอยากทำอะไรควรรีบทำไว้ก่อนจะดีที่สุดค่ะ!

ถ้าไปญี่ปุ่นอีกครั้ง ฉันจะเดินทางเที่ยวยามากาตะกับโทโฮคุอย่างไม่รีบร้อนแน่นอนค่ะ




ผู้เขียน:BANBI(บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวชาวไต้หวัน

to top