การฝึกจิตและทำสมาธิแบบเซนที่วัดเซนโพจิ, สึรุโอกะ
ชาวญี่ปุ่นมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับศาสนาชินโตและศาสนาพุทธมาอย่างยาวนาน สังเกตได้จากการเข้าร่วมศาสนพิธีที่ศาลเจ้าชินโตและวัดทางพระพุทธศาสนาในโอกาสต่าง ๆ ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะที่จังหวัดยามากาตะแห่งนี้ ที่ความเชื่อทางศาสนาทั้งสองถูกฝังรากลึกอยู่ในจิตใจของผู้คน โดยสึรุโอกะเป็นเมืองของชาวพุทธนิกายเซน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเยี่ยมชมความงดงาม ลิ้มรสอาหาร และสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในมุมต่าง ๆ ได้ที่นี่
วัดเซมโปจิ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.938 ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลและอยู่ใกล้กับท่าเรือประมงท้องถิ่น วัดแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยชาวประมงมากมายที่มักมาขอพรจากเทพเจ้าให้คุ้มครองให้ปราศจากอันตราย และขอให้พวกเขาจับปลาได้เป็นจำนวนมาก ที่วัดแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์ห้าชั้น 1 ใน 2 แห่งด้วย (อีกหนึ่งแห่งอยู่ที่ภูเขาฮากูโระ) ด้วยความใหญ่โตและสวยงามของวัดแห่งนี้ ผู้คนทั้งใกล้และไกลจึงพากันหลั่งไหลมาเยี่ยมชมความงดงามและสัมผัสกับบรรยากาศอันเงียบสงบ
วัดเซมโปจิ ก่อตั้งขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการปฏิบัติตามหลักของศาสนาพุทธนิกายเซน ที่นี่มีพระฝึกหัดที่มุ่งมั่นจะเป็นปรมาจารย์เซนในอนาคต พวกเขาใส่ชุดคลุม ห่มผ้าคาด และทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เช่นกวาดพื้น ทำความสะอาดวัด ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกจริยธรรมและจิตวิญญาณตามหลักของเซน รวมไปถึงการทานอาหาร และการทำสมาธิด้วย ซึ่งกิจกรรมสองอย่างหลังนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจในการทำสมาธิและอยากสัมผัสประสบการณ์ทานอาหารโชจิน เรียวริ (อาหารเจของพระสงฆ์) เข้าร่วมได้ด้วย
สำหรับผู้ที่เข้าร่วมการทำสมาธิจะได้ทำความรู้จักกับซาฟู (เบาะรองนั่ง), กาโช (การประนมมือทั้งสองข้างเพื่อสวดมนต์) และได้เข้าใจถึงความสำคัญของการเคลื่อนไหวตามเข็มนาฬิกาที่ปฏิบัติสืบกันมาจนถึงทุกวันนี้ พระสงฆ์ท่านจะแนะนำท่านั่งที่เหมาะสมในการทำสมาธิ (ลืมตาทั้งสองข้าง มองตรงไปทางด้านหน้า 3 เมตร) และตำแหน่งของมือ โดยการทำมือทั้งสองข้างเป็นวงกลม สื่อถึง “ดวงใจของพระพุทธเจ้า” จากนั้นพระสงฆ์จะตีระฆัง 3 ครั้ง เป็นการส่งสัญญาณเริ่มต้นการทำสมาธิ เราจะได้รับการแนะนำเกี่ยวกับแนวคิด “การไม่มอง”, ไม่สนใจความคิดใด ๆ ที่แวบเข้ามาในจิตใจและปล่อยวาง โดยใจความสำคัญคือ ให้เราปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างลง พยายามหยุดความต้องการ หรือปรารถนาในวัตถุต่าง ๆ ผู้ที่สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง จะสัมผัสได้ถึงสภาวะอันว่างเปล่า ซึ่งถือเป็นความสำเร็จเบื้องต้นอันงดงาม และเมื่อเสียงระฆังดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสัญญาณสิ้นสุดการทำสมาธิ ผู้เข้าร่วมหลาย ๆ ท่านจะได้รู้สึกถึงประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตในการเผชิญกับบางสิ่งหรือบางคนที่อยู่เหนือกว่าเรา หรือบางสิ่งบางอย่างที่อยู่นอกเหนือจากจิตใต้สำนึก โดยเวลาที่ผ่านไปในแต่ละนาทีนั้นคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่ที่เราค่อย ๆ ลืมตาออกมาจากความมืดมิดและจิตวิญญาณอันลึกซึ้ง มาสู่ลานกว้างของวัดแห่งนี้
หลังจากการทำสมาธิแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์การทานโชจิน เรียวริ หรืออาหารเจของพระ สงฆ์ที่นี่ ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าวสวย, ผักหลายชนิด และซุปมิโซะ อาหารชนิดนี้เป็นอาหารดั้งเดิมของพระสงฆ์ ซึ่งแฝงการสอนกฎระเบียบและมารยาทต่าง ๆ เข้าไปในแต่ละกระบวนการประกอบอาหารด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมอาหารชนิดนี้จึงมีบทบาทสำคัญต่อการปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ และหลังจากทานอาหารแล้ว จานและชามต่าง ๆ จะถูกนำไปล้างด้วยน้ำร้อนและแตงกวาดองแผ่นบาง ๆ ที่ใช้สำหรับล้างจาน
กิจกรรมต่าง ๆ ของวัดเซนโพจิสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของของชาวสึรุโอกะและชาวจังหวัดยามากาตะที่มีต่อพระพุทธศาสนานิกายเซน คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นเซนตั้งแต่พื้นหญ้าอันเขียวขจี และวิวภูมิประเทศอันเขียวชอุ่มที่สวยงาม มีห้องหับ ทางเดินโบราณ และภาพวาดทางศาสนาที่พบในบริเวณวัด และที่สำคัญที่สุด คือการที่คุณได้เห็นและสัมผัสนิกายเซน ได้พบเห็นความสง่างามของพระสงฆ์ที่นี่ และพบเจอกับผู้คนในสึรุโอกะและยามากาตะด้วยตัวของคุณเอง
วัดเซนโพจิ: เซกิเนะ-100 ชิโมกาวะ, สึรุโอกะ, ยามากาตะ 997-1117
พอล แม็คอินเนส(Japan Travel)
นักข่าวและนักเขียนด้านการท่องเที่ยวจากโตเกียว